19 พฤศจิกายน 2015

รักไม่รู้จบ : เก้าแต้ม ‘ขอบคุณนะ ที่มารักกัน’

เก้าแต้ม
‘ขอบคุณนะ ที่มารักกัน’

     ยังคงจำกันได้ถึงกระแสเหล่าสุภาพบุรุษแห่งวังจุฑาเทพที่ทำให้สาวๆ เพ้อหากันทั้งเมือง รวมทั้งตั้งชื่อลูกๆ ตามแบบคุณชายทั้ง 5 กันยกใหญ่ วันนี้ฮักจะเปิดเผยความรักที่ไม่ลับของนักเขียนนิยายรัก เจ้าของนามปากกา ‘เก้าแต้ม’ ผู้ปั้นคุณชายพุฒิภัทรให้ออกมาเขย่าหัวใจสาวๆ จนอยากจะหาหมอกันเป็นแถว ขอพา ‘พญ.คัคณางค์ มิ่งมิตรพัฒนะกุล’ กับคุณหมอสามี ‘ปภากร มิ่งมิตรพัฒนะกุล’ ผู้ให้การสนับสนุนเป็นกำลังใจสำคัญ เอ๊ะ...หรือเพราะมีพี่หมอเป็นของตัวเองแบบนี้ เลยเขียนออกมาได้หวานอินเสียเหลือเกิน อยากจะรู้ว่าความรักของคุณหมอเป็นอย่างไร มันน่าสนใจขนาดไหน ตามกันมา

แรกเริ่มการพบกัน
เจี๊ยบ : เจอกันครั้งแรกตอน ม.4 เป็นเพื่อนในห้องที่ค่อนข้างสนิทกัน ช่วยกันทำงาน ช่วยกันเรียน และเป็นคนมาเช้ากันทั้งคู่ เลยได้คุยกันบ่อย
กร : พอผ่านไปสักพัก ผมก็เล็งเขาแล้วล่ะ (หัวเราะทั้งคู่) หาเรื่องไปช่วยเขา รดน้ำต้นไม้ ทำสวน
เจี๊ยบ : คือมีวิชาเลือก ก็เลือกเกษตร ทำการปลูกผัก ตอนเช้าก็ไปตักน้ำ รดน้ำแปลงผัก คนนี้มาช่วยประจำ (ยิ้มมองสามี) รดของตัวเองและมาช่วยรดของเรา ก็สักพักหนึ่งเหมือนกันที่เห็นว่าเขาค่อยๆ เริ่มเข้ามา
กร :
สมัยนั้นเขาน่ารักมากนะ
เจี๊ยบ : เดี๋ยวนะ หมายความว่าไง (พี่กรหัวเราะชอบใจ)
กร : เขาเป็นคนเรียบร้อย ผมเป็นคนไม่หวือหวา เวลามองผู้หญิงก็จะชอบมองคนที่น่ารัก เรียบร้อย พอคุยแล้วรู้สึกสบายๆ รู้สึกโอเค
เจี๊ยบ : กรเขามีความเป็นผู้นำ มีช่วงหนึ่งที่เขาได้เป็นหัวหน้าห้อง เราเห็นว่าเขาเป็นคนเอาใจใส่ดูแลคนอื่น เป็นคนมีน้ำใจ ปกติเราไม่ชอบคนที่ดูมีเล่ห์เหลี่ยม แต่เขาดูเป็นคนตรงไปตรงมา นิสัยดี
เมื่อจากเพื่อนกลายเป็นแฟน
เจี๊ยบ : ช่วงนั้นมันเหมือนป็อบปี้เลิฟ พอ ม.5 แยกห้องกัน พวกเราเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า ไม่ได้เป็นแฟนกัน ต่างคนต่างสนใจกับการสอบเทียบเข้ามหา’ลัย พี่กรสอบเข้าไปได้ก่อน เข้าแพทย์ที่ศิริราช พี่จบม.6 ตามไปสอบ เป็นรุ่นน้อง 1 ปี ที่ศิริราชก็ไม่ได้เป็นแฟนกันนะ เป็นเพื่อนที่รู้สึกดีๆ เป็นห่วงเป็นใย มาเป็นแฟนคือตอนเรียนเฉพาะทางด้านสูตินารี
กร : เรียนแพทย์ 6 ปี ไปใช้ทุนอีก 3 ปี ค่อยกลับมาเรียนเฉพาะทางอีก รวมแล้ว 10 ปี
เจี๊ยบ : ตลอดระยะเวลานั้น มีนัดเพื่อนรุ่น ม.4 ด้วยกันตลอด อยู่ศิริราชก็อยู่หอพัก เดินสวนกัน มีกิจกรรมร่วมกัน รู้จักเพื่อนคนนี้มาตลอด เขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย นิสัยดียังไงก็ยังเหมือนเดิม มันสนิทในฐานะเพื่อนด้วย ทำให้รู้นิสัยใจคอกัน บางคนพอเป็นแฟนกันแล้ว อาจจะหันด้านดีให้กันมากกว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรามั่นใจในตัวเขา คือหลังจากที่เขาตัดสินใจแล้ว เขาจะเป็นคนที่มั่นคง ไม่วอกแวกให้เรากังวล ถ้าผู้ชายคนนี้เจ้าชู้ ไปนู่นไปนี่ตลอด พี่ไม่ไหวนะ (หัวเราะ) ขอให้เลือกแล้วคือเลือก เพราะพี่เองเลือกแล้วก็จะเลือกคนคนนี้
กร : ต้องเข้าใจว่า อาชีพหมอ เรื่องพวกนี้จะไม่หวือหวา (ยิ้ม) เพราะงานที่เรามีทุกวัน มันเป็นงานที่ค่อนข้างกดดันพอสมควร มุมมองของพวกเราเลยอาจดูจริงจัง แค่เจอเขาอีกครั้งก็คิดแล้วว่าใช่เจี๊ยบเป็นคนเรียบง่าย ที่สำคัญมองโลกในแง่ดี ไม่มองด้านลบของคน ไม่ตีโพยตีพายหรืออยู่กับความยุ่งยาก เป็นคนตรงๆ มองด้านบวก อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ผมมองไปถึงการใช้ชีวิตด้วยกัน
 

เมื่อหมอขอแต่ง

กร : มันดูซื่อมากเลยนะ ตอนเด็กๆ มีไปซื้อดอกไม้หาของขวัญให้ แต่พอจะขอแต่งงาน จังหวะมันง่ายมาก คุยกันซื่อๆ บอกแต่งงานกัน (หัวเราะชอบใจ)

เจี๊ยบ : ลักษณะคือนั่งคุยกันมากกว่า กินข้าวไป เขาถาม เราแต่งงานกันไหม ก็คิดว่ายังเรียนไม่จบนะ หมอเฉพาะทางเรียน 3 ปี ปีที่ 3จะยุ่งกับการสอบ จะทำยังไง

กร : นึกว่าคิดว่า เอ๊ะ ดอกไม้อยู่ไหน (หัวเราะมองภรรยา)

เจี๊ยบ : ไม่มีดอกไม้ ไม่มีคุกเข่า ไม่มีเหมือนในนิยาย แหวนยังหาทีหลังเลย (หัวเราะ) เป็นการขอแต่งที่ธรรมดา ฉากขอแต่งงานในนิยายมันเป็นฉากจินตนาการที่สาวๆ ต้องการ แต่จริงๆ ความรู้สึกในใจทุกคนเหมือนกัน ดูคนคนนั้นว่าจริงใจรึไหม ถ้าจริง มันก็จบ และการแต่งงานไม่ใช่คนดีที่สุดสองคนมาแต่งกัน แต่เป็นคนที่เข้าใจเราและรับได้ในแบบที่เราเป็น (ยิ้ม)

 

นิยายของเก้าแต้มในสายตาหมอกร

กร : ผมเป็นคนจริงจัง ช่วยเรื่องจินตนาการไม่ได้ แต่ถ้าถามเรื่องความสมจริง ในแง่ของเหตุการณ์แบบนี้ มันจะเป็นยังไง ผมให้ความเห็นได้ ผมมองว่าสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์นิยาย เก้าแต้ม คือมันฟิลกู้ดตลอด ถึงจะมีปัญหายังไง แต่สุดท้ายก็จะคลี่คลายและสวยงาม อาจจะมาจากชีวิตครอบครัวเรามีความสุข (ยิ้ม) 

เจี๊ยบ : เขาเป็นคนเป็นเหตุเป็นผล อย่างคุณชายพุฒิภัทรจะเป็นเหตุเป็นผล พูดอะไรตรงๆ เหมือนกัน มันมีบางจุดที่เหมือนกับเขาบางมุม 

กร : ถ้าเอาผมมาทั้งตัว อ่านแล้วคงไม่สนุก (หัวเราะ) 

 

ผู้ให้การสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางกร

เจี๊ยบ : เมื่อก่อนจะเข้าไปโพสต์อะไรต้องมีล็อคอิน พี่กรเป็นคนทำให้ ตอนนั้นยังใช้เนตไม่ค่อยเป็น(พี่กรเสริม เว็บไซต์ก็ทำให้) ใช่ๆ เขาเป็นคนทำให้ทุกอย่าง (หัวเราะ) ถ้าคอมฯ แฮ้งค์เมื่อไรก็จะอุ้มไปหาเขา พิมพ์อยู่แล้วคอมค้าง งานจะหาย ร้องให้เขาช่วย (หัวเราะ)

กร : เราก็กู้งานให้เขาได้เป็นส่วนใหญ่ (ยิ้ม) แล้วพอจะส่งสำนักพิมพ์ก็มาปรึกษาอีกว่า ส่งสำนักพิมพ์นี้ แล้วรอบหน้าจะทำยังไงดี สำนักพิมพ์นั้นจะเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็ค่อยๆ ทำความเข้าใจ ถึงจะให้คำแนะนำกับเจี๊ยบได้ แรกๆ งง (หัวเราะ) 

เจี๊ยบ : ในความรู้สึกของคนที่อยากออกนิยายเล่มแรก อยากมีสักเล่ม ก็คิดว่ายังไม่ได้สักที รุ้สึกทุรนทุราย แต่พี่กรมองว่ามันเป็นงานอดิเรกนะเธอ งานหลักคือหมอ (หัวเราะ) นิยายเล่มแรกได้ขึ้นอันดับที่ร้านนายอินทร์ ดีใจมาก 

กร : ผมก็ต้องขับรถไปที่ร้านให้ เป็นหน่วยสนับสนุน (หัวเราะทั้งคู่)

เจี๊ยบ : ไปถึงก็ต้องแอบๆ ถ่ายรูปเอามาเก็บไว้ ครั้งหนึ่งในชีวิต เคยได้ยินมาว่าต้องซื้อเอาฤกษ์ ก็พยายามบังคับเขานะ เธอไม่ซื้อนิยายฉันหน่อยเหรอ (หัวเราะทั้งคู่)

 

 

นางเอกในใจหมอกร

กร : กรองแก้วถือว่าโอเคที่สุด ผมว่าคล้ายเจี๊ยบเยอะนะ คือมองโลกในแง่ดี แต่ยังมีลูกล่อลูกชน จากที่อ่าน วิธีการเขียนของเขาค่อยๆ คมขึ้น มีมิติซับซ้อนที่ชัดขึ้น เริ่มเห็นตัวตนชัดเจนออกมา

เจี๊ยบ : บางทีเวลาที่เขียนนางอิจฉา มันอาจเป็นด้านที่แอบซ่อนอยู่ของเรา ที่จะแสดงออกมา (หัวเราะ) 

กร : ร้ายของเขา ผมยังรู้สึกเลยว่านี่ร้ายแล้วเหรอ (พี่เจี๊ยบหัวเราะ) เจี๊ยบมาบอก ตัวละครนี้ร้ายจัง ทำแบบนี้ลงไป ผมจะ โห นี่เจ็บแสบแล้วเหรอเนี่ย ร้ายสุดแล้วเหรอ ให้ผมทำแทนไหม

 

เก้าแต้มตัวจริงยามอยู่บ้าน

กร : บรรยากาศในบ้านจะเหมือนฤดูกาลครับ ก่อนงานหนังสือสัก 2 – 3 เดือน จะเป็นฤดูฝน ฟ้าคะนอง ต้องปล่อยให้เขียนให้เสร็จ แล้วจะดี๊ด๊าเป็นฤดูใบไม้ผลิ ทางที่ดีอย่าไปกวนใจเขา ถ้าช่วงวุ่นวาย จะดึงลูกออกมาก่อน บอกว่าอย่าเข้าไปยุ่งกับแม่  มีอะไรให้มาถามป๊าก่อน 

เจี๊ยบ : ส่วนมากจะเขียนที่เงียบๆ ใครมาพูดคุยด้วยไม่ได้ไม่มีสมาธินะ หน้าเฟสจะมีบก.เขียนมาถามว่า ต้นฉบับละจ้ะ (หัวเราะ) ค่ะ เข้าใจแล้วว่าต้องรีบ

 

การแบ่งเวลาเลี้ยงลูก

กร : โชคดีที่ลูกไม่ได้เป็นคนเลี้ยงยาก และเหมือนผมเป็นคนเหตุผลเยอะ สมัยลูกยังเด็กจะแอบๆ สอน ให้รู้จักเข้าใจว่าถ้าทำแบบนี้จะได้แบบนั้น โตขึ้นก็เข้าใจ 

เจี๊ยบ : เราก็เหมือนครอบครัวทั่วๆ ไป ที่ไปส่งลูกตอนเช้า ไปรับตอนเย็น ช่วยดูเรื่องการบ้าน วันอาทิตย์จะไม่ได้ทำงาน เป็นวันที่ได้ใช้เวลากับลูก เราจะเลี้ยงด้วยเหตุผล มีอะไรสามารถถามได้ ลูกคิดว่าแม่เป็นเพื่อน มีอะไรก็สามารถเล่าให้ฟังได้ แต่กับพ่อจะเป็นฝั่งเหตุผล ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา 

กร : ผมจะแอบสร้างแรงบันดาลใจให้เขา ถามว่าคุณอยากเป็นอะไร พูดกับลูกซ้ำๆ ตั้งแต่ประถม จนถึงจุดหนึ่ง เขามีเป้าของตัวเองแหละ 

เจี๊ยบ : ครอบครัวไม่ซีเรียสว่าลูกอยากเรียนอะไร จะพยายามสนับสนุนให้ไปในสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ได้ให้มาเป็นหมอเหมือนพ่อแม่ 

 

เคล็ดแก้ปัญหาเวลาทะเลาะกัน

กร : จริงๆ เป็นผมที่ต้องแก้ (หัวเราะ) เนื่องจากผมเป็นคนจริงจัง มีเหตุผลสูง ดังนั้นอีโก้ มันเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ชีวิตคู่มันไปได้ยาก บางเรื่องของชีวิตคู่มันไม่ได้ต้องการเหตุผล มีอยู่หลายๆ ครั้งที่ผมมีตรงนี้เยอะ พอวางมันลงได้ก็รู้สึกว่าสบายใจ (ยิ้ม) พอเผลอมีอีโก้ขึ้นมา เจี๊ยบเตือน ผมจะโยนมันออกไป 

เจี๊ยบ : รู้ว่าเนื้อแท้เขาไม่ได้เป็นคนไม่ดี ถ้ามีปัญหาไม่เข้าใจกัน คุยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขาด้วย ถ้าพร้อมคุยก็โอเค แต่ถ้าไม่ก็พักก่อน แล้วค่อยมาคุยกันใหม่ ทำให้สามารถเข้าใจกันได้ ถ้าเป็นแบบ เธอผิดฉันถูก มันมีแต่แตกหักกัน เราพยายามเข้าใจเขา เพราะเขาคือคนที่เรารัก พอคิดแล้วไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลมาก ยอมได้ยอม เขาเองต้องใช้เหตุผลมาทั้งวัน ก็เข้าใจนะ (พี่กรหัวเราะ)

 

สำหรับหมอกรกับละครของเก้าแต้ม

กร : ส่วนใหญ่เวลาเขาวิจารณ์ในสื่อกัน คือความสมจริง ฉากผ่าตัดเหมือนไหม จนลืมไปรึเปล่าว่าการนำเสนอของป้าแจ๋ว ได้ดึงธีมของเรื่องชัดเจนมาก ทำให้รู้สึกว่าดูเรื่องนี้จบแล้วทุกคนมีความสุข มันตรงกับต้นฉบับนะ แต่คุณชายบางช่วงดูโหดกว่าผม (ยิ้ม) เหมือนบวกเข้าไปอีก 20 % อย่างเวลาคุยกับมารตี โหดใช้ได้เลยล่ะ เขาอาจจะอยากบอกผมว่า ถ้ามีใครเข้ามา ให้ช่วยพูดอย่างนี้ 

เจี๊ยบ : งั้นรีบไปท่องจำไว้เลยนะ ให้อยู่ในจิตใต้สำนึก จะเอาปากกาเน้นประโยคนี้ให้เลย

 

คำแนะนำสำหรับคนที่อยากเขียน

เจี๊ยบ : มันต้องลงมือทำ ถ้าเมื่อไรที่เริ่มพิมพ์ หรือเขียน จะรู้ว่าจริงๆ เราอาจมีความสามารถพิเศษนี้ซ่อนอยู่ การอ่านเป็นสิ่งจำเป็นด้วย ที่มาเขียนนิยายได้เพราะชอบอ่าน เป็นการเปิดโลกทัศน์ของเรา และนักเขียนทุกคนจะต้องมีจุดเริ่มว่าส่งไปไม่ผ่าน ไม่ได้ อย่าเพิ่งท้อ เพราะสุดท้ายจะประสบความสำเร็จ (ยิ้ม) ทุกคนชอบบอกว่าตัวเองไม่มีเวลา จริงๆ มันหาได้นะ พอเราตั้งใจจะทำ ถ้ามีความพยายามจะสู้เพื่อมัน มันก็ทำได้

กร : ในฐานะที่คนอยู่ข้างๆ เขา ทำไมคนคนหนึ่งจากเป็นหมอ แล้วลุกมาเขียนนิยายจนตอนนี้มีอยู่ 40 เล่ม ในเวลา 8 ปี ตั้งแต่สมัยทำงานวิจัย ต้องเขียนงานวิจัยส่งไปหนึ่งชิ้น เขาเขียนงานวิจัย 5 ชิ้น คือมันมีโอกาสไม่ผ่าน เลยทำสำรองไว้ทุกอย่าง มันคือความแตกต่างนะ ถ้าคุณอยากเป็นนักเขียน สร้างพล็อตขึ้นมา ต้องจบให้ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ เขาเป็นคนแบบนี้ ไม่จบไม่ได้ เมื่อตั้งเป้าไว้แล้ว มีความวิริยะสูง มีความรักไม่พอ ต้องมีวินัยในตัวเองเจี๊ยบจะมีความมุ่งมั่นมากกว่าคนทั่วไป 25 % ไม่เคยกลัวว่าต้องเขียนใหม่ เป็นสิ่งที่ผมทำไม่ได้นะ (ยิ้ม)

 

กันและกันที่อยากเอ่ยถึง

เจี๊ยบ : รู้จักตั้งแต่ปี 2529 แต่งงานกันตอนปี 2541 มีความรู้สึกตลอดเลยว่า โชคดีที่ได้เจอเขา จากที่มาเป็นเพื่อนกัน เป็นป็อปปี้เลิฟ ไม่มีใครคิดหรอกว่าสุดท้ายแล้วจากเพื่อนจะมาเป็นคู่ชีวิตกัน เขาเข้าใจเรามากที่สุด และเขาไม่เคยทำให้เราไม่สบายใจ ชีวิตพี่มีความสุขที่สุดเพราะคนคนนี้(มองสามี)

กร : เคยบอกเขาหลายทีแล้วว่าขอบคุณที่เขาแต่งงานด้วย เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความสุขความสบายใจ (ยิ้มมองภรรยา)

เจี๊ยบ : การเขียนนิยายชีวิตรัก ก็อาจทำให้เราเข้าใจชีวิตรักของแต่ละคน จะเริ่มเข้าใจว่าเหตุผลเป็นแบบนี้นะ ตอนมีปัญหาทุกคนจะใช้อารมณ์เป็นหลัก เราก็เริ่มกลับมามองที่เหตุผล ว่าอะไรถูกผิด และสุดท้ายคนคนนี้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ก็คือคนที่เรารัก และเขารักเรา ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

(ที่มา : 
Hug Magazine ปีที่ 7 ฉบับที่ 12  รักไม่รู้จบ : มาศวดี ถนอมพงษ์พันธ์ : ภาณุวัชร สุเมธี)