เหตุเพราะได้รับการปลูกฝังให้จงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่เด็ก คุณแพร ทิพยวไลย์ ทายาทเจ้าของโรงเรียนอนุบาลปรางทิพย์และนักเขียนเจ้าของนามปากกา 'แพรณัฐ' จึงมักหยิบยกเอาพระราชกรณียกิจและอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ มาเป็นส่วนหนึ่งในนวนิยายของเธอเสมอมา อาทิ คุณชายรณพีร์ ในซีรีส์ชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ และล่าสุด 'ใจพิสุทธิ์' หนึ่งในซีรี่ส์ชุดดวงใจเทวพรหม

1. ประทับใจทุกอย่าง "แพรโตมาในรุ่นที่ยังได้เห็นในหลวงเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎร ทุกวันตอนสองทุ่มเราจะเห็นว่าข่าววันนี้พระองค์ท่านเสด็จฯ ไปที่ไหนบ้าง แล้วที่บ้านคุณยายเป็นคนโบราณ เวลาดูข่าวพระราชสำนัก หลานๆ ก็นั่งเรียงกัน แล้วคุณยายก็ให้เราก้มกราบท่าน (ยิ้ม) เพราะฉะนั้นตั้งแต่เด็กจนโตเราจะเห็นว่าไม่มีวันไหนที่พระองค์ท่านหยุดทรงงานเลย แล้วสถานที่ที่พระองค์ท่านเสด็จฯ ไปลำบากมากเลยเป็นความประทับใจมาตั้งแต่เด็กว่าพระองค์ท่านทรงทำทุอย่างให้ปวงชนชาวไทย" 

2. กินรีสวีท "แพรชอบเพลง 'กินรีสวีท' มาก เลยเอาเรื่องนี้มาใส่ในเรื่องคุณชายรณพีร์ (ยิ้ม) คือแพรรู้สึกว่าสำหรับคีตกวีคนหนึ่งของโลก ถ้าเขาแต่งเพลงๆ หนึ่งเขาเก่งแล้ว แต่ถ้าคนที่สามารถแต่งเป็นบัลเล่ต์ เป็นอุปการากรได้ทั้งชุดมันเป็นความยิ่งใหญ่มาก เป็นอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของพระองค์ท่าน" (กินรีสวีทเป็นบทเพลงประกอบบัลเล่ต์เรื่องมโนราห์ ที่รวมเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 เพลง คือ เริงวนารมย์, พรานไพร, กินรี, ภิรมย์รัก, อาทิตย์อับแสง ซึ่งพระองค์ท่านทรงอำนวยเพลงและฝึกซ้อมด้วยพระองค์เอง เปิดแสดงเมื่อปี พ.ศ.2505)" 

3. ไม่ทอดทิ้งประชาชน "จำได้ว่าเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ มีการปะทะกันสองฝ่าย ในหลวงทรงเรียกทั้งสองฝ่ายเข้าเฝ้า แล้วทุกอย่างก็สงบลงคือแพรรู้สึกว่า พระองค์ท่านเป็นห่วงประชาชนตอนที่เรียนธรรมศาสตร์ เราก็จะเรียนประวัติศาสตร์การเมือง เวลามีเหตุการณ์อะไรพระองค์ท่านส่งคนมาดูแล แพรก็รู้สึกว่าไม่เคยทอดทิ้งประชาชน พระองค์ท่านทรงดูอยู่ตลอด" 

4. อนาคตเป็นสิ่งที่ทำนายได้ "เป็นพระราชดำรัสที่แพรอ่านเจอและชอบมาก พระองค์ท่านสอนว่า สิ่งที่เราทำในปัจจุบันมันเป็นผล คือถ้าเราทำสิ่งที่ดีในวันนี้ ในวันข้างหน้ามันก็จะดีด้วย เพราะฉะนั้นถ้ามุ่งมั่นทำความดีในวันนี้ วันข้างหน้าเราก็จะทำนายได้ว่าสิ่งที่เราจะได้มันคืออะไร เป็นอย่างที่พระองค์ท่านตรัสไว้จริงๆ ว่า อนาคตทำนายได้"

5. โอวาทวันรับปริญญา ."แพรรับพระราชทานปริญญาปี 2539 ในหลวงให้โอวาทว่า 'ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ให้เราใช้ปัญญากับสติในการแก้ปัญหาต่างๆ' ตอนเด็กๆ เราก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร พอเราเริ่มมาศึกษาธรรมะ เราก็เข้าใจว่าคำสอนของพระองค์ท่านเป็นเรื่องของธรรมะทั้งนั้นเลย แล้วเป็นสิ่งที่ทำได้จริงๆ คือให้ใช้สติกับปัญญาในการแก้ปัญญา แล้วเราก็จะแก้ไขได้"

6. พระจริยวัตรงดงาม "เวลาที่เราดูภาพข่าวต่างๆ เราจะเห็นว่าถ้ามีราษฎรกราบอยู่ที่พื้น พระองค์ท่านจะโน้มพระองค์ลงมาหาหรือนั่งลงหรือเวลาพระองค์ท่านเสด็จฯ ตรวจงานต่างจังหวัด พระองค์ท่านก็เสวยอาหารเหมือนคนอื่น คือทรงดำรงตนเรียบง่าย สมถะ แล้วก็อ่อนน้อมถ่อมตน ทั้งที่จริงๆ พระองค์ท่านไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย เราเป็นคนธรรมดาเราก็ควรทำได้เหมือนที่พระองค์ทำ"

7. ศูนย์รวมจิตใจคนไทย "แพรรู้สึกว่าในหลวงอยู่กับเราทุกที่ ไม่ว่าเราไปที่ไหน เราก็จะเห็นภาพหรือผลงานของในหลวง ตอนเขียนนิยายเรื่องแสงเทียน แพรหาข้อมูลเรื่องโขนพระราชทานแล้วก็โยงมาเรื่องผ้าที่บ้านเนินธัมมัง นครศรีธรรมราช ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงสร้างอาชีพให้ชาวบ้านแถวนั้น ปรากฏไปเจอเรื่องในหลวงกับโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง นครศรีธรรมราช เลยรู้สึกประทับใจว่าท่านอยู่กับเราทุกที่จริงๆ เหมือนเป็นศูนย์รวมของคนไทยทุกคน"

8. บันทึกไว้ในนิยาย "สิ่งที่เราจะทำให้พระองค์ได้คือเป็นพลเมืองที่ดี ไม่สร้างปัญหาอะไรให้กับประเทศชาติ และในส่วนตัวแพรที่เป็นนักเขียน หน้าที่ของแพรคือการบันทึกอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านลงไปในงานเขียนของเรา เพื่อให้คนอ่านในอีกสิบอีกร้อยปีข้างหน้าได้เห็นว่า ในช่วงเวลานั้นคนไทยได้อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่ทรงประเสริฐที่สุด"

ขอขอบคุณข้อมูลประชาสัมพันธ์จาก นิตยสารเปรียว